ครบเครื่องเรื่อง “สติกเกอร์ไดคัท” ตอบชัดคืออะไร?
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงต่อธุรกิจเกือบทุกประเภท ส่งผลให้การพัฒนากลยุทธ์เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างฐานการตลาดให้แข็งแกร่งนั้น เป็นเรื่องที่ต้องโฟกัสให้มากกว่าเดิม ซึ่ง "สติกเกอร์ไดคัท" ก็คือหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับการโปรโมตแบรนด์ แต่จะนำไปใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อกลยุทธ์ทางการตลาดมากที่สุด วันนี้เรามีคำตอบ
เปิดโลกสื่อสิ่งพิมพ์ทรงอิทธิพลทางการตลาดอย่าง "สติกเกอร์ไดคัท"
จากหลาย ๆ บล็อกที่ผ่านมาของเรา ผู้อ่านจะสังเกตเห็นได้ว่าเรามักจะตอกย้ำอยู่เสมอถึงอิทธิพลของ “สื่อสิ่งพิมพ์” ที่มีต่อแผนการตลาดเชิงรุกแบบออฟไลน์ และสติกเกอร์ก็ถือเป็นประเภทของสิ่งพิมพ์ที่สามารถแทรกซึมไปทำการตลาด ซึ่งตอบสนองต่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยมีสติกเกอร์ไดคัทเป็นหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ติกเกอร์ไดคัท (Die-Cut) คืออะไร?
สติกเกอร์ไดคัท (Die-Cut) คือ ประเภทของสติกเกอร์ที่พิมพ์เสร็จ แล้วถูกตัดตามรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ โดยสามารถทำได้ตั้งแต่ชิ้นเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากความสวยงามที่จะได้เมื่อใช้งานแล้ว ยังตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายและรวดเร็ว เมื่อต้องนำไปผลิตในรูปแบบสติกเกอร์ม้วน สำหรับใช้กับเครื่องจักรอีกด้วย
สติกเกอร์ไดคัทมีกี่ประเภท?
ในปัจจุบันการผลิตสติกเกอร์ไดคัทก็มีอยู่หลากหลายประเภท แบ่งไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ทำให้เกิดการประยุกต์ทั้งด้านวัสดุและเทคนิคการตัดขึ้นมามากมาย เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าใครสงสัยว่า จริง ๆ แล้วสติกเกอร์ไดคัทมีกี่ประเภทกันแน่ ด้านล่างนี้มีคำตอบ
3 ประเภทสติกเกอร์ไดคัทตามวัสดุ
1. สติกเกอร์ขาวไดคัท
สติกเกอร์ไดคัทแบบขาว คือสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยพื้นผิวสีขาวที่ทำให้ง่ายต่อการพิมพ์ลายชิ้นงาน เหมาะสำหรับทำเป็นฉลากสินค้าสำหรับติดลงบนบรรจุภัณฑ์, สติกเกอร์ปะหน้าพัสดุ และสติกเกอร์อเนกประสงค์ทุกประเภท โดยจะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดย่อย ดังนี้
-
สติกเกอร์ PVC: มีความยืดหยุ่นและทนทาน กันน้ำ กันแดดได้ เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียน การติดบนบรรจุภัณฑ์ที่มีความโค้งมน เป็นต้น
-
สติกเกอร์ PP: มีความเรียบเนียนและให้สีสวย นอกจากนี้ ยังสามารถกันน้ำได้ดี สามารถเลือกเคลือบได้ทั้งแบบเงาและด้าน เหมาะสำหรับติดบนพื้นผิวเรียบ เนื่องจากมีความตึงผิวสูง
2. สติกเกอร์กระดาษไดคัท
สติกเกอร์ไดคัทชนิดกระดาษ คือสติกเกอร์ที่เหมาะสำหรับคนงบน้อย ต้องการพิมพ์ในปริมาณที่ไม่มาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีราคาถูกที่สุดและผลิตได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถเลือกได้ทั้งแบบขาวด้าน ขาวเงา นอกจากนี้ ยังทนทานต่อความร้อนได้มากถึง 90 องศาเซลเซียส เพียงแต่ว่าจะไม่สามารถป้องกันน้ำได้ดีเท่าที่ควร
3. สติกเกอร์ใสไดคัท
สติกเกอร์ไดคัทแบบใส คืออีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมไม่น้อย อีกทั้งยังมาแรงเป็นอย่างมากในช่วงที่กระแสร้านกาแฟ คาเฟ่ และร้านขนม กำลังบูม ด้วยความโดดเด่นของเนื้อสติกเกอร์ที่เป็น PVC แบบใส สามารถกันน้ำและทนความชื้นได้ดี จึงทำให้ลูกค้านิยมสั่งไปใช้สำหรับติดบนบรรจุภัณฑ์อย่างแก้วกาแฟ หรือขวดเครื่องดื่ม รวมไปถึงสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างขวดสกินแคร์ต่าง ๆ เนื่องจากทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้นนั่นเอง
3 ประเภทการไดคัทสติกเกอร์
1. เทคนิค Cloud-Cut
เทคนิคการตัดสติกเกอร์แบบหลายชิ้นบนแผ่นเดียวกัน เป็นลักษณะของการตัดขอบแบบรอบชิ้นงาน โดยจะเหลือขอบสีขาวเอาไว้เพียงเล็กน้อย เพื่อให้ขอบการตัดที่สวยงาม ชัดเจน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน
2. Kiss-Cut
เทคนิคการตัดสติกเกอร์ไดคัทแบบ Kiss-Cut หรือ Half-Cut คือรูปแบบการตัดที่แนะนำสำหรับชิ้นงานขนาดใหญ่ โดยจะทำการเดินเส้นตัดแบบไม่ทะลุกระดาษรอง ทำให้สามารถลอกออกจากแผ่นและนำไปติดลงบนพื้นผิวที่ต้องการได้ทันที ไม่ต้องนั่งแกะตามขอบกระดาษให้ลำบาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคแนะนำสำหรับคนที่ต้องการใช้งานอย่างสะดวกสบายก็ว่าได้
3. Die-Cut
ปิดท้ายกันที่เทคนิคสติกเกอร์ไดคัทแบบตัดแยกชิ้น โดยวิธีนี้แนะนำเป็นอย่างมากสำหรับชิ้นงานประเภทงานป้าย งานโลโก้ขนาดใหญ่ เพราะการตัดแบบไดคัท จะเป็นการตัดตามรูปทรงที่ต้องการ ไม่มีขอบ งานเนี๊ยบ และติดลงไปได้อย่างแนบเนียน
ประโยชน์ของการใช้สติกเกอร์ไดคัททำ Offline Marketing
✔ เพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์ ผ่านการพรีเซนต์อัตลักษณ์จากการออกแบบ โลโก้ สีสัน และองค์รวมต่าง ๆ
✔ ช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด กระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ด้วยการนำมาใช้เป็นของรางวัล แต้มคะแนน หรือของที่ระลึก หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ
✔ เป็นการโฆษณาเชิงสร้างสรรค์ที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างคุ้มค่า สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่พบเห็นผ่านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้ต้นทุนที่ประหยัดกว่าสื่อสิ่งพิมพ์แบบอื่น ๆ
✔ เหมาะสำหรับทำการตลาดแบบกองโจร ซุ่มยิงแคมเปญอย่างสร้างสรรค์ สร้างไวรัลแบบใช้งบประมาณในการโฆษณาต่ำ เหมาะสำหรับการโปรโมตแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ในพื้นที่สื่อโฆษณาสาธารณะ เช่น พื้นห้างสรรพสินค้า ป้ายโฆษณาริมถนน เป็นต้น
สรุป! องค์ประกอบการออกแบบสติกเกอร์ไดคัทให้มีประโยชน์
-
รูปร่างที่เหมาะสม สามารถใส่ข้อความและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างพอดี
-
ขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น ขนาดใหญ่สำหรับแคมเปญที่ต้องการจุดสนใจ และขนาดเล็กสำหรับการติดบนบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
-
สีสันที่ดีของสติกเกอร์ไดคัทคือสีที่ตรงตาม CI ของแบรนด์และสินค้า เพื่อตอกย้ำถึงการรับรู้และจดจำของลูกค้า
-
วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากผลิตภัณฑ์ต้องเจอกับน้ำ ความชื้น เสี่ยงต่อการโดนความร้อนบ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน ในทางกลับกันที่เป็นผลิตภัณฑ์ทั่วไป และต้องการเซฟงบก็สามารถเลือกชนิดกระดาษ, สติกเกอร์ PP หรือ PVC ได้ตามลำดับ
-
สไตล์การตัดที่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Cloud-Cut, Kiss-Cut หรือ Die-Cut ล้วนต้องผ่านการพิจารณาวัตถุประสงค์ในการใช้งานให้เหมาะสมก่อนสั่งพิมพ์ชิ้นงาน
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าสติกเกอร์ไดคัทคืออะไร มีกี่ประเภท และมีประโยชน์อย่างไร หากคุณพร้อมแล้วที่จะยกระดับแบรนด์ด้วยสติกเกอร์ไดคัทคุณภาพดี พร้อมตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบครบ จบในแผ่นเดียว อย่าลืมนึกถึง Gogoprint ผู้ให้บริการสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท พร้อมรับพิมพ์สติกเกอร์ทุกรูปแบบ สามารถสั่งได้ตลอดเวลา จัดส่งทันใจ อยู่ที่ไหนในประเทศไทยเราก็ไปส่งได้ภายใน 48 ชั่วโมง! ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-026-3147 หรือ LINE: @gogoprintthailand.