ในทุกวันนี้สื่อโฆษณากลางแจ้งได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว (อ้างอิงจาก: Nielsen) และสมควรที่จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โปสเตอร์ถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบการโฆษณาทางการตลาดที่เก่าแก่ที่สุด และสามารถพบเจอได้ทุกที่ทุกเวลา ในแต่ละวันเราเดินผ่านโปสเตอร์มากมายหลายรูปแบบจากหลากหลายสถานที่ หลากหลายเวลา สื่อโปสเตอร์ได้ถูกนำมาใช้ในวงกว้างเพราะสามารถใช้เป็นสื่อโฆษณาได้อย่างอเนกประสงค์ ไม่จำกัดอิสระทางความคิด เป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ สามารถเลือกเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่ต้องการหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ โปสเตอร์ที่ดีจะต้องมีความดึงดูดตา ดึงดูดใจคนที่เดินผ่านไปผ่านมา และในขณะเดียวกันต้องสามารถกระตุ้นผู้คนให้คล้อยตามได้ สิ่งจำเป็นที่คุณต้องมีในการทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคล้อยตามคือการออกแบบ และเนื้อหาในโปสเตอร์ของคุณที่น่าเชื่อถือ และสามารถจูงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้
ตอบคำถาม 3 ข้อก่อนออกแบบโปสเตอร์
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการโฆษณาคือขั้นตอนแรกสุด ก่อนที่คุณจะเริ่มคิดออกแบบโปสเตอร์ อันดับแรกคุณควรจะนั่งลงและคุยกับทีมงานการตลาดและทีมออกแบบ เพื่อคิดเรื่องต่อไปนี้
1. กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือใคร? มีวิธีเข้าถึงลูกค้าที่ไหน เมื่อไร อย่างไร?
2. อะไรคือ key message ที่คุณต้องการสื่อถึงลูกค้า? (สิ่งที่ต้องการบอกลูกค้า)
3.ภาพประกอบแบบไหน และวิธีการใด จะสามารถส่งเสริมข้อความที่เราต้องการสื่อสารกับลูกค้า?
การเลือกรูปแบบ และน้ำหนักกระดาษที่เหมาะสมสำหรับโปสเตอร์ของคุณเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทำสื่อโฆษณาภายในอาคาร(โฆษณาในลิฟท์) หรือสื่อโฆษณากลางแจ้ง(เช่น ป้ายรถเมล์) สำหรับการทำโปสเตอร์ภายในอาคาร ซึ่งปกติจะติดอยู่ในกรอบ เหมาะสมกับการใช้กระดาษที่ค่อนข้างเล็กอย่าง DIN A3 และกระดาษที่ค่อนข้างบาง (130g ซึ่งมีทั้งกระดาษเคลือบด้านและเคลือบเงา) ซึ่งมีความพอเหมาะและเหมาะสม สำหรับการทำสื่อโฆษณากลางแจ้ง ขนาดที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ DIN A2 ขึ้นไป โดยจะมีความหนาของกระดาษมากกว่า (อย่างเช่น กระดาษ 190g หรือ 210g มีทั้งเคลือบด้านและเคลือบเงา) ถ้าคุณผู้อ่านสนใจสามารถคลิกเข้าไปอ่านบทความในบล็อกของเราได้นะครับ เรื่อง
ประเภทของกระดาษ - ขนาดและการใช้งานและสามารถคลิกเข้าไปอ่านบทความน้ำหนักกระดาษ - โบรชัวร์เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้กระดาษของคุณครับ
ยิ่งน้อยยิ่งมาก! จากการสำรวจพบว่าคนดูโปสเตอร์ประมาณ 3-5 วินาที ดังนั้นคุณจึงต้องโฟกัสในการสร้างเนื้อหาที่กระตุ้นและส่งผลกระทบต่อผู้คน โดยหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลมากเกินไป อย่าใส่เนื้อหาที่เป็นองค์ประกอบสำคัญเกิน 5 อย่างในโปสเตอร์ของคุณ เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับสารที่เราต้องการสื่ออย่างถูกต้อง ไม่โดนเบี่ยงเบนประเด็น
หัวเรื่องและหัวข้อรอง:
คนดูต้องสามารถรับสารที่เราต้องการสื่อจากการมองโปสเตอร์ภายใน 3 วินาที ดังนั้นอย่าเสียเวลาไปกับการใส่ข้อความที่มากเกินไป แต่ควรเน้นไปที่หัวเรื่องและหัวข้อรองแทน เพื่อที่จะทำให้เกิดผลกระทบในใจคนอ่าน ควรจำกัดความยาวของหัวข้อสูงสุดไม่เกิน 5 คำ และอยู่ในบรรทัดเดียวกัน หัวข้อรองควรมีข้อความที่เป็นสารการตลาดที่คุณต้องการสื่อถึงลูกค้า และอีกประการ ควรกำหนดขนาดตัวอักษรสำหรับหัวข้อให้มีเนื้อที่ประมาณ 15% ของความสูงโปสเตอร์ เพื่อให้คนดูสามารถอ่านได้แม้มองจากระยะไกล
โลโก้ของคุณ:
คนที่มองดูโปสเตอร์ต้องสามารถเข้าใจสารหลักของแบรนด์ ดังนั้นโลโก้ของคุณต้องอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ง่ายและมีมิติ ตาของคนมักจะมองไปที่มุมบนขวาของโปสเตอร์ การวางโลโก้ไว้มุมบนขวาจึงสามารถช่วยให้เกิดการรับรู้ในแบรนด์และจดจำแบรนด์ได้
ข้อความของคุณ:
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ยิ่งน้อยยิ่งมาก ดังนั้นข้อความที่สื่อสารต้องตรงประเด็น อย่าใช้คำที่ซับซ้อน ไม่มีความหมาย หรือยาวเกินไป ต้องทำให้ข้อความของคุณจดจำได้ง่าย เกิดการคล้อยตาม และมีความเป็นธรรมชาติ จัดวางให้ข้อความอ่านได้ง่าย และวาง key message ไว้ตรงกลาง
การใช้ฟอนต์:
ตามที่เราได้กล่าวถึงในบล็อกของเรา ในเรื่องวิธีการใช้ฟอนต์ในอาร์ตเวิร์คฟอนต์เป็นตัวตัดสินว่าโปสเตอร์ของคุณจะเลิศหรือร่วง ฟอนต์ที่คุณเลือกไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อความยากง่ายในการอ่านโปสเตอร์ของคุณ แต่ยังส่งผลถึงภาพลักษณ์ที่ผู้อ่านรู้สึกกับแบรนด์เราอีกด้วย คุณต้องแน่ใจว่าฟอนต์ที่ใช้สอดคล้องกับข้อความที่คุณต้องการสื่อสารออกไป และอย่าใช้ขนาดตัวอักษรต่างกันเกิน 3 ขนาดในโปสเตอร์แผ่นเดียวกัน เพราะจะทำให้คนอ่านรู้สึกสับสน
รูปภาพและรูปสินค้า:
รูปภาพและส่วนประกอบของโปสเตอร์ต้องมีความชัดเจน โดดเด่น และสะดุดตา รูปภาพที่ดีต้องมีความชัดเจน จับใจผู้ชม และทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกที่ดี เราขอแนะนำให้คุณออกแบบจัดวางองค์ประกอบให้มีความน่าหลงใหล ต้องตาต้องใจคนดูในทันที และต้องยกตัวอย่างอธิบายจุดขายของสินค้าของคุณ หรืออธิบายถึงสิ่งที่คุณสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ สำหรับเรื่องขนาดของรูปภาพนั้น ควรใช้รูปที่มีขนาดประมาณ 40% ถึง 50% ของความสูงโปสเตอร์ของคุณ
สีและความเปรียบต่าง:
การใส่สีและความเปรียบต่างเป็นทางที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มความมีชีวิตชีวาและแรงกระตุ้นในโปสเตอร์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้สีหลากหลายเกินไป และไม่ใช้ความเปรียบต่างของสีที่มากเกินไป เพราะจะทำให้คนมองรู้สึกปวดตา ในตอนที่คุณออกแบบโปสเตอร์และเลือกสี คุณไม่เพียงแค่ต้องคำนึงถึงแบรนด์ แต่ยังต้องคำนึงถึงสถานที่ที่คุณจะนำโปสเตอร์ไปติดด้วย สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญเพราะคุณต้องทำโปสเตอร์ที่มีความน่าดึงดูดใจและแตกต่างจากโปสเตอร์ทั่วไปที่ติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆทั่วเมือง
คุณคิดว่าโปสเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมีลักษณะอย่างไร? ท่านผู้อ่านทุกคนสามารถร่วมกันแชร์ความคิดเห็นได้นะครับ ลองเอาคำแนะนำที่ผมได้ให้ไว้ไปใช้ในการออกแบบโปสเตอร์ของคุณนะครับ และอย่าลืมนะครับ คิดจะปริ้นท์ คิดถึง Gogoprint พบกันใหม่คราวหน้าครับ