ควรระมัดระวังการใส่รูปในไฟล์งานเพราะอาจเสี่ยงต่องานที่จะถูกพิมพ์ออกมา หากคุณดูไฟล์งานผ่านหน้าจอมอนิเตอร์อาจเห็นสีและขนาดที่สวยงามและสมบูรณ์แบบเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่างานพิมพ์จริงจะคุณภาพเหมือนกันกับที่เห็นผ่านหน้าจอ เว้นแต่คุณจะทำตามขั้นตอนสำคัญที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้
อย่างแรกที่คุณต้องทำก็คือ ตั้งค่าโหมดสีเป็น CMYK ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความที่เราได้อธิบายไว้นี้ และวีดิโอที่กำลังจะมีอีกไม่นานนี้ค่ะ
อย่างที่สอง คุณต้องเลือกรูปภาพบิตแมพที่มีความละเอียดสูงเสมอ ซึ่งคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 2 รูปแบบของรูปภาพและกราฟิก: รูปภาพบิตแมพ ที่สร้างมาจากพิกเซลหรือจุด และรูปภาพเวกเตอร์ ซึ่งสร้างมาจากสูตรเรขาคณิต ไม่ใช่พิกเซล
รูปภาพบิตแมพ สร้างจากพิกเซลทีละพิกเซลที่รวมกันขึ้นมาเป็นรูปร่างโดยมีการผสมผสานของสีสันต่าง ๆ เข้าไปด้วย ยิ่งมีพิกเซลมากเท่าไหร่ รูปภาพก็จะยิ่งชัดขึ้นมากเท่านั้น จำนวนของพิกเซลในรูปภาพนั้นวัดโดยใช้หน่วยวัดเป็น ความละเอียดรูปภาพ และ แสดงเป็นค่า DPI ( จุด ต่อ นิ้ว) หรือ PPI (พิกเซล ต่อ นิ้ว) สำหรับการสั่งพิมพ์นั้น ค่ามาตรฐานสำหรับรูปภาพจำเป็นต้องมีค่าเท่ากับ 300 DPI หรือ มากกว่า เพื่อไม่ให้รูปภาพแตก หรือมีความ(เบลอ) หลังจากพิมพ์ออกมา
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราต้องตรวจสอบค่าความละเอียดของรูปภาพในงานอาร์ตเวิร์คก่อนเสมอ วิธีการตรวจสอบความละเอียดของรูปภาพสามารถทำได้โดยการตรวจสอบคุณสมบัติ (Properties) ของรูปภาพ (เช่น ในโปรแกรม Windows Paint) ก่อนจะนำมาใช้ในงานพิมพ์
อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดของรูปภาพในโปรแกรม Photoshop ได้เพราะว่าโปรแกรมนี้นับอาร์ตบอร์ด หรือ Canvas เท่ากับรูปภาพเดี่ยว 1 รูป
ความละเอียดของไฟล์งานหลังถูกออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบได้โดยการ เลือกที่ Image > Image Size จากเมนูด้านบน